เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Harmony Of The Seas เรือสำราญขนาดใหญ่ยักษ์ ที่สามารถจุผู้โดยสารได้มากถึง 6,000 คน และด้วยความสูงถึง 18 ชั้น น้ำหนัก 227,000 ตัน เรือลำนี้จึงได้รับการบันทึกว่า เป็นเรือสำราญที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ที่สำคัญไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้เลยนะเนี่ย ว่าเรือ Harmony มีความยาวมากกว่าความสูงของหอไอเฟลเสียอีก โดยมีความยาว 1,187 ฟุต หรือ 361.8 เมตร ในขณะที่หอไอเฟลมีความสูงอยู่ที่ 1,063 ฟุตเท่านั้น

 

สำหรับเรือสุดหรูลำนี้มีงบประมาณในการสร้างกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Royal Caribbean International ที่ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์นั่นเอง

 

ภายในเรือประกอบไปด้วยภัตตาคารหรูกว่า 16 แห่ง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเลือกใช้บริการได้ตามใจชอบ

อีกทั้งยังมีสไลเดอร์น้ำสุดอลังการงานสร้าง ศูนย์สรรพสินค้าชั้นนำหลากหลายชนิด รวมไปถึงมีห้องฟิตเนสอีกด้วย

เท่านั้นยังไม่พอ เรือสำราญลำนี้ ยังมีกิจกรรมเพื่อความบันเทิงอีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โรงภาพยนตร์ คาราโอเกะ ลานสเก็ตน้ำแข็ง และการแสดงกายกรรมสุดผาดโผน




ส่วนบรรยากาศภายในเรือก็ดี๊ดี เพราะเขามีการจำลองสวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์คจากนิวยอร์ก โดยขนพืชพรรณนานาชนิดมากว่า 15,587 ต้น และต้นไม้ใหญ่ 20 ฟุตกว่า 52 ต้นเลยทีเดียว สุดยอดจริงๆ



ส่วนในเรื่องความปลอดภัย สบายหายห่วงได้เลยจ้า เพราะเรือ Harmony เค้ามีมาตรการในด้านความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมทั้งมีระบบ GPS ในการนำทาง สำหรับผู้โดยสารที่อาจจะหลงอยู่ภายในเรือได้ เนื่องจากเรือลำนี้มันมีขนาดที่ใหญ่มากนั่นเอง

เจ็ตสกี กีฬาทางน้ำสุตฮอต

เจ็ตสกี คือ เรือแข่ง หรือพาหนะที่ใช้เล่นกีฬาทางน้ำ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แถมมีนักกีฬาจ็ตสกีไทยไปสร้างชื่อเสียงในการแข่งขันระดับโลกมาไม่น้อย เพราะเจ็ตสกีเป็นกีฬาทางน้ำที่เล่นง่าย และปลอดภัย ถ้าว่ายน้ำเป็น ทั้งยังเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทุกส่วน เพราะต้องใช้ร่างกายทั้งตัว ควบคุมเครื่องเล่น รวมถึงผู้เล่นต้องมีสมาธิและสติที่นิ่งเป็นอย่างยิ่ง

ประเภทของเรือเจ็ตสกี แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

Ski – เรือเจ็ตสกีแบบยืน

Sport – เรือเจ็ตสกีแบบสปอร์ต (ผสมระหว่าเรือยืนและเรือนั่ง)

Runabout – เรือเจ็ตสกีแบบนั่ง

ส่วนขนาดของเครื่องยนต์แข่งขัน (ซีซี) แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ เครื่องยนต์ 800 ซีซี – 2 จังหวะ และเครื่องยนต์ 1200 ซีซี – 2 จังหวะ ปัจจุบันมีการผลิตเครื่องยนต์ 4 จังหะ – 1600 ซีซี แต่ยังคงถูกจัดลงแข่งในประเภท 1200 ซีซี – 2 จังหวะ

ประเภทและระดับชั้นของนักกีฬา

เจ็ตสกีแบ่งระดับนักกีฬาดังนี้

Beginner นักกีฬาในขั้นเริ่มต้น

Novice นักกีฬาระดับมือใหม่ที่มีประสบการณ์แล้ว

Expert นักกีฬาระดับกึ่งอาชีพ

Pro นักกีฬาระดับมืออาชีพ

ในบางกรณีการแข่งขันจะอนุญาตให้นักกีฬาลงแข่งรวมขั้นกันได้ เช่น

Amateur นักกีฬาที่รวมขั้นระหว่าง Novice และ Expert

Pro-Am นักกีฬาที่รวมขั้นระหว่าง Expert และ Pro

ทำความรู้จักยอดนักบิดระดับพระกาฬ! วาเลนติโน รอสซี่ และที่มาฉายา เดอะ ด็อกเตอร์

เชล มาเลเซีย มอเตอร์ไซค์ กรังด์ ปรีซ์ 2015 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “มาเลเซียโมโตจีพี” โดยงานนี้เป็นครั้งที่ 25 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม 2558 นับเป็นสนามที่ 17 (สนามเซปังอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต) จากการแข่งขันทั้งหมด 18 สนามทั่วโลกของรายการ โมโตจีพี เวิล์ด แชมเปี้ยนชิป 2015 ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

โดยไฮไลท์ของคราวนี้คงนี้ไม่พ้น “เดอะ ด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ยอดนักบิดชาวอิตาเลียนเจ้าของแชมป์โลก 9 สมัย แต่เชื่อว่ายังมีคนอีกมากที่ยังไม่รู้จักสุดยอดนักบิดคนนี้ วันนี้ทีมงาน SportMThai ขออาสาแนะนำให้รู้ลึกถึงแก่นแห่งความสำเร็จของนักบิดแดนมะกะโรนี่คนนี้ 🙂

วาเลนติโน รอสซี เกิดที่ เมือง เออร์บิโน ก่อนย้ายไปที่ ตาวูลเลีย ตั้งแต่ยังเด็ก โดยเขาเป็นลูกชายของ กราเซียโน รอสซี อดีตนักแข่งมอเตอร์ไซต์ ซึ่งเป็นคนแรกที่สอนเขาขับรถสองล้อตั้งแต่วัยเพียงแค่ 3 ขวข รอสซี เริ่มต้นจากการขับรถคาร์ท และคว้าแชมป์มาครองได้มากมาย หลังจากนั้นเข้าสู่วงการรถมอเตอร์ไซต์ โดยไต่เต้าจากรุ่นเล็กสุดอย่าง 125 ซีซี. ไปจนถึง รุ่นใหญ่สุดอย่าง โมโต จีพี ซึ่งผลงานในแต่ละรุ่นของเขาก็สามารคว้าแชมป์โลกมาครองได้หมดแบบไร้ข้อกังขา

รอสซี เริ่มขับ โมโต จีพี กับทีมฮอนด้า เมื่อปี 2002 และก็คว้าแชมป์โลกมาครองได้ในปีนั้น ก่อนย้ายไปขับให้กับ ยามาฮา ในปีถัดมา ซึ่งเขาก็ซิวแชมป์ได้อีก 5 สมัย ขณะที่ในตอนนี้ เขาก็มีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ในฤดูกาล 2015 ที่ 296 แต้ม มีแต้มนำห่างแชมป์เก่า มาร์ค มาร์เกวซ ที่ตอนนี้รั้งเป็นอันดับสามมีอยู่ที่ 222 แต้ม

ข้ามมาดูที่ความเป็นมาของฉายา “เดอะ ด็อกเตอร์” กันบ้างซึ่งเป็นข้อสงสัยที่น้อยคนจะรู้ถึงที่มาที่แท้จริง โดยฉายาเริ่มต้นนักบิดของ รอสซี่ คือ “รอสซี่ฟูมิ” ที่เขาเป็นคนคิดขึ้นมาเอง ซึ่งมีที่มาจาก โนริค อาเบะ สุดยอดนักบิดดาวรุ่งชาวญี่ปุ่นในสมัยนั้น และต่อมา รอสซี่ ก็เปลี่ยนฉายาเป็น “Valentinik” ซึ่งชื่อนี้มาจากซูเปอร์ฮีโร่ที่ชื่อว่า “Paperinik” ซึ่งสุดท้ายแล้วยอดนักบิดจอมซ่าอย่าง รอสซี่ ก็ตกลงปลงใจเปลี่ยนนิคเนมของเขาเป็น “เดอะ ด็อกเตอร์” ในท้ายที่สุด โดยชื่อดังกล่าวนั้นมาจากเหล่าสื่อมวลชนในอิตาลี ที่ต่างยกย่องในความสุดยอดและอัจฉริยะของเขาเพราะนอกเหนือจากสไตล์การขับรถที่ดุดันแล้ว รอสซี่ ยังเก่งกาจเรื่องของเครื่องยนต์สามารถพูดคุยกับทีมช่างให้ปรับแต่งจูนรถออกมาได้แรงดังใจทำให้  “เดอะ ด็อกเตอร์” คือฉายาที่เหมาะกับ รอสซี่ ที่สุดแล้ว นอกจากนี้ นามสกุล Rossi คือนามสกุลของแพทย์ที่พบเยอะที่ในประเทศอิตาลีอีกด้วย บังเอิญสุดๆ

และอีกสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกถามไถ่คือหมาย 46 นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร หมายเลย 46 ของ รอสซี่ คือหมายเลขของคุณพ่อ กราเซียโน รอสซี สมัยขัยมอเตอร์ไซค์นั้นก็ไม่แปลกที่ลูกชายจะเลือกเบอร์นี้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่เขาเอง โดยหมายเลข 46 นั้นก็มีความสำคัญเพราะเป็นหมายเลขที่คุณพ่อกราเซียโน คว้าแชมป์ Grand prix career เป็น 3 สมัยเมื่อปี 1979 ที่ประเทศยูโกสลาเวีย และในปัจจุบันหมายเลข 46 นั้นถูกนำไปทำเป็นหมวกกันน็อค เสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆ สำหรับให้แฟนคลับได้ซื้อเป็นที่ระลึกกันทั่วโลก

เกร็ดน่ารู้: วาเลนติโน รอสซี่ ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจนอกเหนือจากเรื่องของความเร็ว โดยทีมรักของ รอสซี่ คือ สโมสรอินเตอร์ มิลาน ยอดทีมแกร่งของกัลโซเชเรียอาร์ และมี มาร์โค มาเตรัสซี่ ปราการหลังระดับตำนานของ อินเตอร์ มิลาน เป็นเพื่อนรักอีกด้วย

motocross

motocross

คำว่า โมโตครอส มาจากภาษาอังกฤษว่า Motocross) โดยใช้ศัพท์สองคำรวมกันระหว่างคำว่า "Motorcycle" ซึ่งแปลว่า มอเตอร์ไซค์ และ อีกคำหนึ่งคือคำว่า "Cross Country"และแปลว่า วิบาก ซึ่งคำว่าโมโตครอส (Motocross) แปลว่าตรงตัวก็หมายถึง มอเตอร์ไซค์วิบาก โมโตครอสเป็นกีฬาประเภทหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส แต่ได้รับความนิยมในประเทศอังกฤษโมโตครอสเกิดขึ้นอย่างไรโมโตครอสเกิดจากการวิวัฒนาการของ ออฟโรด หรือที่เรียกว่า scrambling  เป็นวิวัฒนาการในรูปแบบใหม่ที่ได้ทำการ การทดลองโดยการใช้รถจักรยานยนต์ ในการทำกิจกรรมในรูปแบบที่ลุยๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากในภาคเหนือของประเทศอังกฤษ (UK ) ในช่วงปี 1924 ถึงปี 1930 หลังจากนั้นก็กลับกลายมาเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมขึ้นอย่างรวดเร็วและแพร่หลายไปยังที่อื่นๆโดยมีการเรียกชื่อในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น MX หรือ Motox และได้มีการแข่งขั้นโมโตครอสในระดับนานาชาติครั้งแรกในปี พศ.2542 โมโตครอสเป็นจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันในสนามที่เป็นถนนขรุขระรุงรังมีสิ่งกีดขวางและลื่น เพื่อสร้างความลำบากให้กับนักแข่ง แต่ก็ตามมาด้วยความสนุกสนานของผู้ชมการแข่งขันและให้ความมันสำหรับนักแข่งเอง นับว่าเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

กีฬาจักรยานแต่ละชนิด

กีฬาจักรยานแต่ละชนิด

1.จักรยานถนน(Road cycling) เป็นกีฬาจักรยานชนิดที่ต้องใช้ความกล้า และพละกำลังอย่างสุดกำลังของมนุษย์(courage,heoism and going beyond one’s limitations) เป็นชนิดกีฬาที่เป็นประวัติศาสตร์ทางการกีฬาของโลกชนิดหนึ่ง การแข่งขันครั้งแรก “Paris- Rouen” จัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2412 การแข่งขันมีสองประเภทคือ

1.1 ไทม์ไทรอัล(time-trials)

• ไทม์ ไทรอัล บุคคล (มีการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์):  เป็นการแข่งขันกันด้วยระยะทางประมาณ 40-50 กม (ในการชิงแชมป์โลกและกีฬาโอลิมปิกเกมส์) นักขี่จักรยานจะออกตัวเป็นรายบุคคลในช่วงเวลาห่างกันที่สม่ำเสมอ (ประมาณ 1-2 นาที) ผู้แข่งขันที่ขี่จนจบเวลาและเร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
• ทีม ไทม์ ไทรอัล : หลักการพื้นฐานจะเหมือนกันกับ ไทม์ไทรอัล บุคคล แต่รายการนี้จะแข่งขันเป็นทีมที่มีานักกีฬาอย่างต่ำที่สุด 2 คน และมากที่สุด 10 คน ทีมไทม์ไทรอัล จะอยู่ในโปรแกรมของการชิงแชมป์โลกถนนของยูซีไอ จากปี 2012 (มีประมาณ 5-6 คน / ทีม) ทีมยูซีไอทุกทีม จะสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ (ทีมอาชีพของยูซีไอ ทีมทวีปของยูซีไอ ทีมหญิงของยูซีไอ)

   1.2 ไลน์เรส(line races) 

2. จักรยานลู่(Track cycling) เป็นกีฬาจักรยานที่ต้องใช้ความแข็งแกร่ง ต้องมีความเร็ว และใช้เทคนิคหลายหลากรูปแบบ การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรก จัดขึ้นในปี 2436 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การแข่งขันมีสองประเภทคือ แข่งความเร็ว และ แข่งความทนทาน

• แข่งความเร็ว(Speed races) มีรายการแข่งขันต่างๆดังนี้คือ ไทม์ไทรอัล สปรินท์ ทีมสปรินท์ และ คีริน
• แข่งความทนทาน มีรายการแข่งขันดังนี้คือ อินดิวิดวลเปอร์ซุท ทีมเปอร์ซูท พอยท์เรส เมดิสัน และสแครท

 มีสนามเวลโลโดรมทั่วโลกประมาณ 800 แห่ง ในประเทศไทยมีเวลโลโดรม 4 แห่ง ที่ กรุงเทพ ฯ , สุพรรณบุรี, เชียงใหม่ และนครราชสีมา ซึ่งเป็นสนามคอนกรีตนอกอาคาร สนามเวลโลโดรมที่ใช้ในการแข่งขันระดับนานาชาติในปัจจุบันนิยมสร้างเป็นสนามในอาคารลู่ทำด้วยไม้ ขนาดความยาวโดยรอบ 250 เมตร

3. จักรยานไซโครครอส(Cyclo-cross) เริ่มมีการเล่นในปี พ.ศ.2443 แต่มีการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกปี พ.ศ. 2493 เป็นชนิดที่เล่นยาก นักกีฬาต้องใช้พละกำลังมาก และต้องสะสมประสบการณ์จากการฝึก

4. จักรยานเสือภูเขา(Mountain bike) เป็นกีฬาจักรยานที่ให้ความรู้สึกถึงความอิสระ สนุกสนาน จักรยานเสือภูเขาได้ถือกำเนิดเมื่อปี พ.ศ. 2513 เมื่อชาวอเมริกัน 3 คนได้ประดิษฐ์จักรยานชนิดใหม่เพื่อใช้ขี่นอกทาง (ออฟโรด) หลังจากนั้นอีก 10 ปี ได้มีการแข่งขันเป็นครั้งแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา การแข่งขันมี 3 ประเภทคือ

• ครอสคันทรี(Cross-country) เป็นการแข่งขันในสนามวงรอบ(circuit) ผ่านทุ่งโล่ง ป่าละเมาะ หรือสวนสาธารณะในเมือง
• ดาวน์ฮิล(Downhill) เป็นการขี่ลงจากภูเขา ผู้ทำเวลาได้น้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
• 4 –cross(4X) เป็นการแข่งขันดาวน์ฮิลแบบแพ้คัดออก 

5. จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์(BMX or Bicross) บีเอ็มเอ็กซ์ หรือจัรยานวิบาก เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2503 ในขณะการแข่งขันมอเตอร์ไซด์วิบากกำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่ง เด็กๆเยาวชน ที่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อมอเตอร์ไซด์วิบากมาฝึก จึงใช้จักรยานมาฝึกซ้อมในสนามดินที่สร้างกันเอง และจัดการแข่งขันเหมือนกับมอตอร์ไซด์วิบาก การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2525 เป็นกีฬาที่ดึงดูดวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี ในปี พ.ศ.2550 จะมีการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยสนามแข่งขันมีลักษณะวนไปมา ระยะทาง 300 – 350 เมตร ซึ่งทางแข่งจะมีอุปสรรคเป็นเนินขนาดต่าง และโค้งเลี้ยว เรียงรายไปตามเส้นทาง นักแข่งจะต้องใช้ความเร็ว และเทคนิคการยกรถข้ามเนิน เพื่อให้ไปได้เร็วกว่าคู่แข่ง จะใช้เวลาในการแข่งต่อรอบประมาณ 30 – 40 วินาที ผู้ที่เร็วที่สุดคือผู้ชนะ

6. จักรยานไทรอัล(Trails) การแข่งขันชนิดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกมีขึ้นในปี พ.ศ. 2527 นักแข่งจะต้องขี่จักรยานข้ามเครื่องกีดขวาง โดยห้ามเอาเท้าลงสัมผัสพื้น นักแข่งจะต้องแน่วแน่และมีสมาธิสูง


7. จักรยานในร่ม(Indoor cycling) เป็นการแข่งขันที่มีลีลางดงาม ต้องมีทักษะความคล่องแคล่ว ซึ่งมีการแข่งขันสองประเภทคือ

• จักรยานลีลา(Artistic cycling) รถจักรยานแข่งคันหนึ่งจะมีนักแข่ง 2 คน ขี่แสดงท่าฟรีสไตล์และท่าบังคับ โดยมีเพลงประกอบ ในช่วงเวลา 6 นาที นักแข่งจะต้องมีทักษะและการทรงตัวที่ดี กรรมการจะให้คะแนนมากน้อยขึ้นอยู่กับความยากง่ายของท่าที่ขี่ คู่ที่ได้คะแนนสูงสุดคือผู้ชนะ
• จักรยานไซเคิลบอล(Cycle – ball)เป็นประเภทการแข่งขันเฉพาะผู้ชาย คล้ายกับการเล่นฟุตบอล แต่ละทีมจะมีผู้เล่น 2 คน ขี่จักรยานคนละคัน ซึ่งเป็นได้ทั้งผู้เล่นและผู้รักษาประตู การแข่งขันแบ่งเป็นสองช่วง ๆ ละ 7 นาที ผู้เล่นจะต้องใช้ล้อจักรยานทำประตูขณะที่ขี่จักรยาน ทีมทีทำประตูได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ
• 

8. Para-cycling การแข่งขันจักรยานสำหรับผู้พิการ ใช้มือในการปั่นแทนขา

10 อันดับ BigBike ที่ผู้หญิงอยากซ้อนท้ายมากที่สุด

10 อันดับ BigBike ที่ผู้หญิงอยากซ้อนท้ายมากที่สุด

อันดับ 10 CBR 1000 RR


อันดับ 9 KTM 1190 RC 8



อันดับ 8 Honda CB 650 F


อันดับ 7 Harley Davidson V-Rod


อันดับ 6 Yamaha R1


อันดับ 5 Suzuki Hayabusa


อันดับ 4 Suzuki GSXR 1000


อันดับ 3 Ducati Monster 796


อันดับ 2 BMW S1000 RR


อันดับ 1 Ducati 1299 Panigale